ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นิรัติศัย รักมาก อาจารย์ประจำหลักสูตรวิศวกรรมเคมีและเคมีเภสัชกรรม สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ได้ลงพื้นที่ บริษัท นิวไบโอดีเซล จำกัด จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อดำเนินโครงการ ‘Technology to Industry Convergence’ ซึ่งเป็นโครงการที่มุ่งเน้นการนำงานวิจัยมาประยุกต์ใช้ในภาคอุตสาหกรรมอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการนำผลลัพธ์จากงานวิจัยเรื่อง “การผลิตถ่านชีวมวลความร้อนสูงจากวัสดุเหลือใช้ในโรงงานสกัดปาล์มน้ำมัน'” มาใช้ในกระบวนการผลิตของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม โครงการนี้มีเป้าหมายหลักเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าและลดของเสียที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิต ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญในการเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพของอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันในประเทศไทย
งานวิจัยนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างนวัตกรรมที่ช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมและเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต โดยการนำวัสดุเหลือใช้จากโรงงานสกัดปาล์มน้ำมัน เช่น ทะลายปาล์ม เส้นใยปาล์ม กะลาปาล์ม และเศษวัสดุอื่น ๆ มาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตถ่านชีวมวลที่มีคุณภาพสูง กระบวนการนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดปริมาณขยะที่เกิดจากการผลิต แต่ยังสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับวัสดุเหลือใช้อีกด้วย ถ่านชีวมวลที่ผลิตได้มีคุณสมบัติพิเศษ เช่น ความร้อนสูง สามารถใช้ในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ หรือจำหน่ายในตลาดทั้งในและต่างประเทศ นอกจากการประยุกต์ใช้งานวิจัยในภาคอุตสาหกรรมแล้ว ผศ.ดร.นิรัติศัย รักมาก ยังได้จัดกิจกรรมอบรมและถ่ายทอดองค์ความรู้แก่ผู้ประกอบการแปรรูปน้ำมันปาล์มจากทั่วประเทศ ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567 ณ โรงแรม ไดมอนด์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมุ่งเน้นให้ความรู้เกี่ยวกับการเพิ่มมูลค่าของเสียจากกระบวนการแปรรูปน้ำมันปาล์ม มาประยุกต์ใช้เป็นสารปรับปรุงดิน และถ่านชีวมวลความร้อนสูง อีกทั้งการอบรมนี้ยังช่วยเสริมสร้างความรู้และทักษะให้กับผู้ประกอบการ ทำให้สามารถนำไปปรับใช้ในการดำเนินงานจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการยกระดับมาตรฐานการผลิตในอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันในระดับภูมิภาค การดำเนินโครงการนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการเชื่อมโยงระหว่างงานวิจัยทางวิชาการและการประยุกต์ใช้ในภาคอุตสาหกรรม ความสำเร็จของโครงการนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตจากปาล์มน้ำมัน แต่ยังช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากของเสียในกระบวนการผลิต ทำให้การใช้ทรัพยากรมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนและสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มในประเทศ ทำให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน



Facebook Comments Box